วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

สมุนไพรแก้โรคหนองใน

อบเชยต้น ที่เป็นสายพันธุ์ไทยพบมากที่สุดทางภาคเหนือ ส่วนภาคอื่นมีประปราย ซึ่ง อบเชยต้นของไทยเปลือกต้นจะมีความหนาและแข็งกว่าอบเชยต้นที่นำเข้าจากญวน, อินเดีย และจีนมาก แต่สรรพคุณทางยาจะใช้เหมือนกันหมด โดย เปลือกต้น ต้มนํ้าดื่มเป็นยาแก้โรคหนองใน แก้นํ้าคาวปลาเป็นพิษในสตรี ปัจจุบันตำรายาบางพื้นที่ระบุว่า เปลือกต้นตากแห้งแล้วบดเป็นผงบรรจุแคปซูลกินวันละ 1 แคปซูล เวลาไหนก็ได้ เป็นยาช่วยลดนํ้าตาลในเลือด หรือลดเบาหวานได้ จึงรีบแนะนำในคอลัมน์ทันที

นอกจากนี้ ใบ ของ อบเชยต้นยังใช้เป็นยาหอมบำรุงกำลัง บำรุงธาตุ แก้จุกแน่นลงท้อง เปลือกต้น ปรุงเป็นยานัตถุ์แก้ปวดศีรษะ บำรุงกำลัง แก้บิด แก้ไข้สันนิบาต รากกับใบต้มรวมกันดื่มแก้ไข้เนื่องจากการอักเสบของสตรีหลังคลอดบุตรใหม่ๆได้ด้วย


อบเชยต้น หรือ CINNAMOMUM TAMMALA SP. อยู่ในวงศ์ LAURACEAE เป็นไม้ยืนต้น สูง 4-10 เมตร เปลือกต้นและใบมีกลิ่นหอม ใบออกตรงกันข้าม ใบอ่อนสีแดง มีเส้นใบหลัก 3 ใบ เนื้อใบค่อนข้างหนา ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบและปลายกิ่ง ดอกเป็นสีเหลืองอ่อน ผล รูปทรงกลม มีเมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดและตอนกิ่ง มีต้นขาย ที่ตลาดนัดไม้ดอกไม้ประดับ สวนจตุจักร ทุกวันพุธ-พฤหัสฯ บริเวณโครงการ 21 แผง คุณพร้อมพันธุ์ ราคาสอบถามกันเอง


ที่มา : เกษตรกรบนแผ่นกระดาษ โดย...นายเกษตร นสพ. ไทยรัฐ




ความรู้เรื่องโรคหนองใน



รคหนองใน เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD)เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า Neisseria gonorrhoeae เชื้อแบคทีเรียที่สามารถแพร่กระจายผ่านจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งผ่านเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ช่องปากหรือ ทางทวารหนัก แม้คนที่ติดเชื้อ ยังไม่แสดงอาการใด ๆ ก็ยังแพร่เชื้อได้ นอกจากนี้ยังสามารถแพร่เชื้อผ่านจากแม่ไปยังทารกในระหว่างคลอด เราไม่สามารถเห็นเชื้อของโรคหนองในที่ผ้าขนหนู ลูกบิด หรือในห้องสุขาได้


เราจะทราบได้อย่างไรว่าเป็นโรคหนองใน



หญิงสาวผู้ที่มีโรคหนองในอาจไม่แสดงอาการเลยหรือแสดงอาการเล็กน้อย และไม่สามารถสังเกตเห็นได้ จนถึงขั้นรุนแรงจึงรู้ว่าเป็นหนองใน บางครั้ง จะรู้สึกแสบร้อนเมื่อปัสสาวะหรือมีตกขาว สีเหลืองปนเขียว และยังอาจพบเลือดออกทางช่องคลอดระหว่างช่วงเวลาการมีประจำเดือน


หากติดเชื้อจะแพร่กระจายมากขึ้นและกระจายเข้าไปในมดลูกหรือท่อนำไข่ก็อาจส่งผลในการติดเชื้อที่เรียกว่าโรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ (PID) ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องมีไข้และอาการปวดระหว่างมีเพศสัมพันธ์เช่นเดียวกับอาการดังกล่าวข้างต้น


ในผู้ชายจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นโรคหนองใน



ผู้ชายที่มีเชื้อโรคหนองในส่วนมากมีแนวโน้มที่จะสังเกตเห็นอาการได้ง่าย แม้จะไม่รู้ว่าเป็นโรคหนองใน โดยมักจะรู้สึกแสบร้อนท่อปัสสาวะ เวลาปัสสาวะและถ่ายปัสสาวะเป็นสีขาวแกมเหลือง


นานเท่าไหร่จึงแสดงอาการ



อาการมักจะปรากฏ 2-7 วันหลังจากได้รสัมผัสกับเชื้อโรคหนองในและในผู้หญิงอาจปรากฏอาการในภายหลังก็ได้


จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเป็นโรคหนองใน



โรคหนองในอาจเป็นอันตรายมากถ้าไม่ได้รับการรักษา แม้ในคนที่มีอาการอ่อน ๆ หรือยังไม่แสดงอาการเลย ในหญิงที่ติดเชื้อสามารถแพร่กระจายเข้าไปในมดลูก, ท่อนำไข่และรังไข่ได้ (ทำให้เกิด PID ได้) และสามารถนำไปสู่การเกิดแผลเป็นและมีบุตรยาก (ไม่สามารถที่จะมีลูกได้) การติดเชื้อหนองในระหว่างการตั้งครรภ์อาจทำให้เกิดปัญหาสำหรับทารกแรกเกิดรวมทั้งเยื่อหุ้มสมองอักเสบ (การอักเสบของเยื่อหุ้มเซลล์รอบสมองและไขสันหลัง) และการติดเชื้อที่ตาที่สามารถทำให้ตาบอดได้ถ้าไม่ได้รับการรักษา


ในผู้ชายโรคหนองในสามารถกระจายไปยังหลอดน้ำอสุจิ (โครงสร้างที่แนบมากับลูกอัณฑะที่ช่วยในการขนส่งสเปิร์ม) ซึ่งก่อให้เกิดความเจ็บปวดและบวมในบริเวณลูกอัณฑะ และให้เกิดเนื้อเยื่อแผลเป็น ทำให้มีบุตรยากได้


โรคหนองในทั้งในผู้ชายและผู้หญิง ถ้าไม่ได้รับการรักษาจะมีผลกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ และส่วนต่าง ๆ ของร่างกายรวมทั้งคอ, ตา, หัวใจ, สมอง, ผิวหนังและข้อต่อ


การรักษา



ถ้าคุณคิดว่าอาจจะติดเชื้อโรคหนองในหรือหากคุณมีคู่ขาที่อาจติดเชื้อโรคหนองใน คุณจำเป็นต้องไปพบแพทย์หรือสูตินรีแพทย์ แพทย์จะทำการตรวจ ซึ่งอาจรวมถึงการตรวจตัวอย่างปัสสาวะ (ฉี่) หรือในผู้หญิงจะได้รับการขูดช่องคลอดหรือปากมดลูกเพื่อวินิจฉัยก่อนจะรักษา การพูดคุยกับแพทย์เพื่อการตรวจเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับคุณ แพทย์ยังอาจตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่นซิฟิลิสหรือหนองในเทียม ทางที่ดี แจ้งให้แพทย์ทราบเกี่ยวกับความลับต่าง ๆ ของคุณ เพื่อการตรวจที่ถูกต้อง


หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหนองใน แพทย์จะกำหนดยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาโรคติดเชื้อ ใครก็ตามที่คุณเคยมีเพศสัมพันธ์ด้วย ควรจะมีการตรวจและได้รับการรักษาโรคหนองในทันที รวมถึงคู่ขาที่มีเพศสัมพันธ์กัน ในช่วงระยะ 2 เดือน หรือมากกว่า 2 เดือน นับตั้งแต่มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย


ถ้าคู่ขาที่ติดเชื้อโรคหนองใน ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็วจะลดความเสี่ยงการเกิดภาวะแทรกซ้อนและจะลดโอกาสในการกลับมาติดเชื้ออีก ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์กับคู่ขาอีกครั้ง (คุณสามารถติดเชื้อโรคหนองในได้อีกครั้ง แม้จะได้รับการรักษาหายแล้ว เพราะการติดเชื้อโรคหนองใน ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันเชื้อได้)


การป้องกันการติดเชื้อโรคหนองในดีกว่าการรักษา และวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด ก็คือการไม่ส่ำส่อนทางเพศ หรือหากส่ำส่อนทางเพศควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีการร่วมเพศกับผู้ชายหรือผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่สามีหรือภรรยาของคุณ นี่เป็นเพียงวิธีหนึ่งในการควบคุมและช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคหนองใน